Page 11 - จุลสารธรรมศาสตร์ ปีที่ 54 ฉบับที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2564
P. 11

ระบบที�พยายามบ่มเพาะคน เพ่�อที�จะให�เปิ็นคนหร่อปิระชากร  เฉพาะอย่าง แต่ว่าก�อนนี�ก็จะไม่ได�ถ้กสอนเหม่อนในอดีตว่า
              ที�ขับเคล่�อนสังคมต่อไปิ  ที�ถ้กพ้ดถึงมากที�สุดก็ค่อ “ระบบ  เด็กจะต�องร้�ผู้่านการฟังบรรยายเท่านั�น แต่ว่าเม่�อเด็กสนใจ
              การศึกษ์า”  จึงเกิดคำาถามต่อว่าเราจะพัฒนาคนให�อย้่ใน  อะไรแล�ว เด็กจะไปิพัฒนาเทคนิคหร่อว่าทักษ์ะเฉพาะทางของ
              ศตวรรษ์ที� 21 ได�อย่างไร และอะไรเปิ็นทักษ์ะที�จำาเปิ็น  เด็กได�ด�วยตัวเองอย่างไร อันนี�คิดว่าเปิ็น 3 ทักษ์ะหลัก ๆ ที�คิด
                                                           ว่ายังจำาเปิ็นอย้่ที�จะต�องมีในการศึกษ์าสำาหรับศตวรรษ์ที� 21
              การศึกษ์าในศตวรรษ์ที� 21  นั�น  ต่างจากศตวรรษ์ที� 20    “ส่วนคำาถามที�ว่าวิธีการสอนแบบใดเหมาะสมในศตวรรษ์ที�
              พอสมควร  ในอดีตเราเรียน  เราเน�นท่องจำา  เราเช่�อว่าคนที�  21 อาจารย์ร้�สึกว่าคำาถามแบบนี�ต�องระวังเลย เพราะว่า
              เปิ็นคุณ์คร้หร่อคนที�เปิ็นผู้้�ใหญ่กว่ามีความร้�มากกว่า เพราะ  สังคมไทยเองกำาลังตกร่องกับคำาว่า “วิธีการ” ติดกับดักคำาว่า
              ว่า ณ์ ตอนนั�นอาจจะเปิ็นข�อจำากัดในการเข�าถึง Resource   “เทคนิค” “วิธีไหนดีที�สุด” “เทคนิคไหนดีที�สุด” เราสังเกตว่า
              แหล่งความร้�ต่าง ๆ แต่เม่�อสังคมเปิลี�ยน มีอินเทอร์เน็ตเข�ามา  เม่�อพ้ดถึงวิธีการสอนปิัจจุบัน มันมีศัพท์มากมาย ไม่ว่าจะเปิ็น
              การเข�าถึงองค์ความร้�จึงง่ายมาก ๆ แค่คุณ์กดคลิกใน  Problem-based Learning, Project-based Learning,
              อินเทอร์เน็ต มันแสดงมาให�หมดเลย ดังนั�นพอข�อม้ลมันเยอะ  Phenomenon-based Learning, Inquiry-based
              ทักษ์ะสำาคัญที�จำาเปิ็นต�องมีเลยค่อ  1.“ทักษ์ะการปิระเมิน  Learning, Game-based Learning, Active Learning
              ข�อมูล” หร่อว่าการที�เราจะตัดสินว่าข�อม้ลไหนน่าเช่�อถ่อ ซึ่ึ�ง  ศัพท์พวกนี�มีเยอะมาก และระดับนโยบายก็รับวิธีการสอน
              ทักษ์ะนี�มันจะเกี�ยวข�องกับทักษ์ะการคิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเปิ็น  เหล่านี�จากต่างปิระเทศเข�ามา คนส่วนใหญ่ก็มุ่งเอาศัพท์
              การคิดเชิงวิเคราะห์หร่อว่าการคิดแก�ปิัญหา    พวกนี�ไปิใช�ในเชิงเทคนิค แต่ไม่เข�าใจจริง ๆ ว่า พวกเทคนิค
                                                           เหล่านี� แท�จริงแล�วเปิ้าหมายมันค่ออะไร ปิลายทางของวิธีการ
              อีกก�อนหนึ�งอาจจะใช�ศัพท์เรียกว่า “Soft Skills” เพราะว่า  พวกนี�  สุดท�ายเขาแค่ต�องการให�เด็กเปิ็นเจ�าของการเรียนร้�
              ในยุคปิัจจุบัน คนเราต�องทำางานกับคนด�วยกันเองเพิ�มขึ�น เรา  หร่อเปิล่า โดยที�คุณ์จัดการเรียนการสอนวิธีใดก็ได� หร่อว่า
              ไม่สามารถจะอย้่แบบปิิดได� หร่ออย้่แบบไม่เจอใครเลย เพราะ  ทำาให�เด็กเขาร้�สึกเปิ็นเจ�าของการเรียนร้� เขามีส่วนร่วมกับ
              ฉะนั�นทักษ์ะที�จำาเปิ็นอีกสิ�งหนึ�งค่อ 2.“ทักษ์ะการส่�อสาร”   การเรียนร้�นั�นอย่างเต็มที� ไม่ใช่แค่ว่านั�งอย้่เฉย ๆ เพราะ
              Communication หร่อว่าการทำางานเปิ็นทีม การทำางาน  ฉะนั�นถ�าเราไม่ติดกับอย้่แค่ที�เทคนิคหร่อวิธีการ เราก็จะไม่
              ร่วมกับผู้้�อ่�น หร่อจะเรียกว่า “Socio-Emotional Skills”   ปิฏิิเสธวิธีการสอนแบบดั�งเดิมหร่อการบรรยายเช่นกัน เราก็
              ค่อทักษ์ะสังคมและอารมณ์์                     จะเช่�อว่าการบรรยายเองก็จะมีปิระโยชน์ในบางบริบท”
                                                           ผู้ศ.ดร.ฐิติกาญจน์ กล่าวทิ�งท�าย
              และสุดท�ายที�ยังจำาเปิ็นอย้่ก็ค่อ 3.“ทักษ์ะในเชิงเทคนิค”
              Technical Skills ความเชี�ยวชาญในการทำางาน





































                                                                                     P erspectiv es  11
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16