Page 8 - จุลสารธรรมศาสตร์ ปีที่ 54 ฉบับที่ 8 เดือนสิงหาคม 2564
P. 8
ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว
จ�าเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกันไหม
กลายเป็นประเด็นที่ถูกตั้งค�าถามและเต็มไปด้วยข้อสงสัย อย่างไรก็ดี ประโยชน์ของการตรวจภูมิคุ้มกันอีกอย่างหนึ่ง
อย่างมาก ส�าหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว แต่ไม่มั่นใจว่า ก็คือท�าให้เราทราบว่าเราเคยติดโควิด-19 มาแล้วหรือไม่
“ภูมิคุ้มกัน” จะขึ้นหรือไม่ นั่นเพราะที่ผ่านมา ได้ปรากฏกรณี เพราะการตรวจภูมิคุ้มกันสามารถวินิจฉัยการติดเชื้อได้
ตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า แม้จะได้รับวัคซีนครบ 2 โดส แต่ใน โดยสามารถใช้ร่วมกับการตรวจวินิจฉัยด้วยวิธี real-time
บางรายภูมิคุ้มกันกลับขึ้นเพียงครู่คราวหรือในระยะเวลาหนึ่ง RT-PCR เพื่อเพิ่มความแม่นย�าให้มากขึ้น
เท่านั้น ส่วนบางรายก็ขึ้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ท่ามกลาง
ความสับสนและความไม่มั่นใจ เกิดเป็นค�าถามดังขึ้นให้ได้ยิน “โดยปกติแล้วร่างกายของเราจะไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโควิด
อย่างหนาหูว่า ที่สุดแล้ว จ�าเป็นต้อง “ตรวจภูมิ” หลังฉีดวัคซีน เว้นแต่ผู้ที่เคยติดเชื้อหรือผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิดมาแล้ว ฉะนั้น
โควิด-19 หรือไม่ ? การตรวจตรงนี้จะท�าให้สามารถบ่งชี้ได้ว่า ผู้ที่เข้ารับ
การตรวจภูมิเคยติดเชื้อหรือเคยรับเชื้อมาแล้วหรือยัง”
มีค�าอธิบายจาก ผศ.ดร.จีระพงษ์ ทะนงศักดิ์ศรีกุล ผู้ช่วยคณบดี ผศ.ดร.จีระพงษ์ ระบุ
ฝ่ายบริหาร และหัวหน้าห้องปฏิบัติการศูนย์ตรวจวินิจฉัย
ระดับโมเลกุล ศูนย์บริการสุขภาพ คณะสหเวชศาสตร์ อย่างไรก็ดี การตรวจภูมิคุ้มกันในแง่หนึ่งจะช่วยให้ทราบว่าผู้ที่
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่จะมาไขข้อข้องใจในเรื่องนี้ ฉีดวัคซีนไปแล้วนั้นตอบสนองต่อวัคซีนดีหรือไม่ ตรงนี้ถือว่ามี
ประโยชน์ เพราะจะช่วยให้รู้ว่าหากวัคซีนยี่ห้อนี้ ไม่ตอบสนอง
ผศ.ดร.จีระพงษ์ อธิบาย กับร่างกายเรา ก็อาจจ�าเป็นต้องเปลี่ยนเป็นวัคซีนตัวใหม่แทน
ว่า ความจริงแล้วการตรวจ
ภูมิคุ้มกันหลังจากฉีดวัคซีน ในส่วนของคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
โควิด-19 อาจเป็นสิ่งที่ไม่จ�าเป็น ปัจจุบันมีโครงการวิจัยที่ศึกษาเรื่องภูมิคุ้มกัน (Antibody)
ในห้วงเวลาปัจจุบัน เนื่องจาก ในเลือดของผู้ที่หายป่วยจากโรคโควิด-19 อยู่แล้ว โดยได้
วัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็น ท�าการวัดปริมาณและหารูปแบบการตอบสนองเพื่อน�าไปสู่
วัคซีนผ่านการรับรองจาก การพัฒนาชุดตรวจการติดเชื้อทางเลือกใหม่ ซึ่งการวิจัย
องค์การอนามัยโลก (WHO) ดังกล่าวจะต้องใช้ชุดตรวจที่เรียกว่าชุด Surrogate virus
และตรวจสอบคุณภาพผ่านทาง neutralization assay (cPass) จึงขยายมาสู่ภาคบริการ
กระทรวงสาธารณสุขแล้ว
ซึ่งตามข้อมูลที่เผยแพร่อยู่ในปัจจุบันนี้พบว่า ส่วนใหญ่หรือ ส�าหรับ cPass เป็นชุดตรวจที่ส�านักงานคณะกรรมการ
มากกว่า 90% ของผู้ฉีดวัคซีนโควิดจะมีภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยัง อาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) และส�านักงาน
ไม่มีข้อมูลบ่งชี้ถึงระดับภูมิคุ้มกันที่สัมพันธ์กับการป้องกัน คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้การรับรอง โดยชุดตรวจ
การติดโรคโควิด-19 (Correlates of protection) ดังนั้น ดังกล่าวสามารถน�ามาใช้ “ตรวจภูมิคุ้มกัน” หลังฉีดวัคซีน
การตรวจภูมิคุ้มกันหลังรับวัคซีน ณ ปัจจุบันจึงเป็นเรื่องของ โควิด-19 ได้ด้วย โดยปรกติแสดงผลเป็น % neutralization
ความสบายใจของผู้เข้ารับการตรวจภูมิที่มีทุนทรัพย์เพียงพอ แต่ทางคณะสหเวชฯ มธ. สามารถแปลงเป็นค่าในหน่วยสากล
IU/mL โดยได้ท�าการเทียบเคียงกับแอนติบอดีมาตรฐานสากล
ที่สั่งซื้อมาจากองค์การอนามัยโลก (WHO)
8 NewsBites